เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 วันฉัตรมงคล ได้ไปทำบุญในเส้นทางวัฒนธรรมของคณะพยาบาลศาสตร์ ข้าพเจ้าและอาจารย์สุภาพร มะรังษี คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ได้พารองศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี รุจกรกานต์ ที่ปรึกษาอธิการบดี ไปทำบุญ ในเส้นทางวัฒนธรรมของคณะพยาบาลศาสตร์ ได้แก่ วัดระหาน (วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน) ซึ่งวัดเกาะแก้วธุดงคสถาน (วัดระหาน) อยู่ที่ ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ภายในวัดประดิษฐานพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ เพื่อเป็นปูชนียสถานระลึกถึงองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ลักษณะขององค์พระมหาเจดีย์ เป็นศิลปะประยุกต์ร่วมสมัย ความสูง ๖๐ เมตร มี ๔ ชั้น คือ ชั้นที่ ๑ ใช้ประโยชน์เป็นศาลาอเนกประสงค์ชั้นที่ ๒ เป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ชั้นที่ ๓ เป็นอุโบสถ พิพิธภัณฑ์และที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชั้นที่ ๔ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆนายกฝ่ายสยามวงศ์ และพระอัครมหาบัณฑิต วิมละรัตนะ เจ้าอาวาสวัดศรีเวฬุวนาราม ประเทศศรีลังกา ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุและหน่อพระศรีมหาโพธิ์ แก่พระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ) เมื่อปี ๒๕๔๗ ส่วนต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้ปลูกไว้ด้านหลังพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ ภายในวัดเกาะแก้วธุดงคสถาน เป็นสถานที่สงบร่มรื่น และมีนกยูงอาศัยอยู่จำนวนมาก เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการไปกราบไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทำบุญและปฏิบัติธรรม (ที่มา : https://www.facebook.com/hugburiram/posts/วัดระหาน-วัดเกาะแก้วธุดงคสถานวัดเกาะแก้วธุดงคสถาน-วัดระหาน-อยู่ที่-ตบ้านด่าน-อบ้/1611449929112381/)
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คณะพยาบาลศาสตร์ ได้เข้าไปดูแล พัฒนา โดยเฉพาะเรื่องนกยูง ที่ช่วยทำให้ส่งเสริมไม่ให้สูญพันธุ์
และวัดกลันทาราม ต.กลันทา อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ อีกหนึ่งพื้นที่ของคณะพยาบาลศาสตร์ ที่มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ วัดกลันทาราม ต.กลันทา อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ มีพระอธิการสวิง อุตฺตโม ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดกลันทาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลกลันทา อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ มีประวัติความเป็นมาในการก่อตั้งวัด ตั้งแต่เมื่อมีประชาชนอพยพมาอาศัยอยู่มากขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ได้มีชาวบ้านผู้ศรัทธาคือ พ่อใหญ่ทา คำเกิด พ่อใหญ่ริน กระแสโสม และ ตาอัก ชาวกลันทา ได้บริจาคที่ดินรวม 15 ไร่ เพื่อสร้างวัดกลันทารามให้เป็น ศูนย์ศรัทธารวมใจของชาวบ้าน เริ่มสร้างวัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2496  เจ้าอาวาสวัดรูปก่อนๆ ได้นำศรัทธาชาวบ้านดูแลรักษาพัฒนาวัดมาโดยลำดับมาถึงพระอธิการสวิง อตฺตโม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ท่านได้เร่งพัฒนาวัดในปี พ.ศ. 2542 พระครูปริยัติโพธิวิเทศ(ดร.พระมหาคมสรณ์คุตฺตธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดไทยเชตะวันมหาวิหารนครสาวัตถี สาธารณรัฐอินเดีย ท่านเป็นพระธรรมทูตสายอินเดีย – เนปาล และเป็นลูกหลานชาวกลันทา ได้นำศรัทธาญาติโยมสายบุญพุทธภูมิ มาทำบุญทอดกฐินประจำทุกปีดำเนินช่วยพัฒนาวัดด้านต่างๆ จนมีถาวรวัตถุสิ่งก่อสร้างเช่น โบสถ์ ศาลาเอนกประสงค์ เมรุ กุฏิสงฆ์ ห้องน้ำ ห้องสุขา เป็นต้น ปัจจุบันวัดกลันทารามได้สร้างวิหารพร้อม อัญเชิญพระองค์ดำที่สร้างด้วยหินดำเมืองนาลันทา ประเทศอินเดีย มาประดิษฐานให้กราบบูชาสักการะที่วัดโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงอินเดียแล้วและทุกวันนี้ได้มีพุทธศาสนิกชนผู้ทราบข่าวได้เดินทางมาสักการะ เป็นจำนวนมาก และได้เริ่มการก่อสร้างพระธาตุบุรีรัมย์ พุทธองค์ดำมหาเจดีย์เพื่อให้เป็นพระธาตุเจดีย์ที่สำคัญของจังหวัดเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปจาก 9 ประเทศ พระธาตุบุรีรัมย์ฯ นี้ประกอบด้วยพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559 โดย พล.อ. สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี พิธีเทเสาเอกวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 โดย นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าฯ

แนวความคิดในการสร้าง “พระธาตุบุรีรัมย์พระพุทธองค์ดำมหาเจดีย์”

  1. เป็นแผ่นดินมาตุภูมิบ้านเกิด วัดกลันทารวม จังหวัดบุรีรัมย์ มีชื่อคล้ายเมืองนาลันทาอินเดีย บ้านเกิดพระสารีบุตร อัครสาวก ที่ประดิษฐานพระพุทธองค์ดำ จนมีแนวคิดจะมีการเปลี่ยนจากชื่อ “วัดกลันทาราม” เป็น “วัดนาลันทา” ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับวัดที่ประดิษฐานพระพุทธองค์ดำ
  2. เพื่อให้พุทธศาสนิกชนผู้ไม่มีโอกาสไปไหว้พระพุทธองค์ดำที่นาลันทา ประเทศอินเดียได้มากกราบไหว้สักการะได้ที่วัดกลันทารามเมืองไทยเรา
  3. เพื่อสร้างสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเป็นพุทธสถาน รวมสถานที่สำคัญจากพุทธภูมิ ให้เป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธา ควรบูชาสักการะที่สำคัญประจำจังหวัดบุรีรัมย์
  4. เมื่อพระธาตุบุรีรัมย์พระพุทธองค์ดำมหาเจดีย์สร้างสำเร็จ จะเป็นแหลง่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญอันจักนำความเจริญด้านอื่น ๆ ตามมาโดยลำดับ
  5. จักขยายผลพุฒนาด้านการศึกษาพระพุทธศาสนาที่สำคัญดุจนาลันทามหาวิทยาลัยสงฆ์ในอดีตที่เคยเจริญรุ่งเรือง

ผลที่จะได้รับคือ 1.จังหวัดบุรีรัมย์จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พุทธสถานจากพุทธภูมิที่สำคัญของจังหวัด 2.วัดกลันนาทาราม จะเปลี่ยนเป็นชื่อวัดนาลันทา ตรงกับพุทธสถานและพุทธประวัติที่อินเดีย ชาวพุทธจักได้ศึกษาพุทธสังเวชนียสถานที่จำลองจากอินเดีย ณ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ 3. หมู่บ้านกลันทา และหมู่บ้านใกล้เคียงจักได้รับอานิสงส์ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ชีวิต และพัฒนาท้องถิ่นด้านอื่น ๆ 4. เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาบุรีรัมย์ได้ชมปราสาทหินเขาพนมรุ่ง,แข่งรถ,ฟุตบอล ยังได้มาบูชาสักการะพระพุทธองค์ดำจากอินเดีย ที่วักลันทารามซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัด

บัดนี้พระพุทธองค์ดำ สลักหินดำอินเดียจากนาลันทา บ้านเกิดพระอัครสาวก พระสารีบุตร และพระโมคคัลลนะ ในแดนพุทธภูมิได้มาสู่บุรีรัมย์แล้ว ขอเชิญไปกราบบูชาสักการะได้ตามศรัทธา และวัดกำลังดำเนินการก่อสร้างพระธาตุบุรีรัมย์พระพุทธองค์ดำมหาเจดีย์ บนพื้นที่ 25 ไร่ พร้อมเตรียมดำเนินการสร้างเวชนียสถานจำลอง 4 ตำบล และเจดีย์ประจำวันเกิด จักเป็นบุญเขตที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของบุรีรัมย์ ในเวลาอันใกล้นี้

แนวความคิดในการสร้าง “พระธาตุบุรีรัมย์พระพุทธองค์ดำมหาเจดีย์”

  1. เป็นแผ่นดินมาตุภูมิบ้านเกิด วัดกลันทาราม จังหวัดบุรีรัมย์ มีชื่อคล้ายเมืองนาลันทาอินเดีย บ้านเกิดพระสารีบุตร อัครสาวก ที่ประดิษฐานพระพุทธองค์ดำ จนมีแนวคิดจะมีการเปลี่ยนจากชื่อ “วัดกลันทาราม” เป็น “วัดนาลันทา” ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับวัดที่ประดิษฐานพระพุทธองค์ดำ
  2. เพื่อให้พุทธศาสนิกชนผู้ไม่มีโอกาสไปไหว้พระพุทธองค์ดำที่นาลันทา ประเทศอินเดียได้มากราบสักการะได้ที่วัดกลันทารามเมืองไทยเรา
  3. เพื่อสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเป็นพุทธสถาน รวมสถานที่สำคัญจากพุทธภูมิ ให้เป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธา ควรมาบูชาสักการะที่สำคัญประจำจังหวัดบุรีรัมย์
  4. เมื่อพระธาตุบุรีรัมย์พระพุทธองค์ดำมหาเจดีย์สร้างสำเร็จ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทองวัฒนธรรมที่สำคัญอันจักนำความเจริญด้านอื่นๆ ตามมาโดยลำดับ
  5. จักขยายผลพัฒนาด้านการศึกษาพระสงฆ์ให้วัดเป็นแหล่งศึกษาพระพุทธศาสนาที่สำคัญดุจนาลันทามหาวิทยาลัยสงฆ์ในอดีตที่เคยเจริญรุ่งเรือง

ผลที่ได้รับ คือ

  1. จังหวัดบุรีรัมย์จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พุทธสถานจากพุทธภูมิที่สำคัญของจังหวัด
  2. วัดกลันทาราม จะเปลี่ยนเป็นชื่อวัดนาลันทา ตรงกับพุทธสถานและพุทธประวัติที่อินเดีย ชาวพุทธจักได้ศึกษาพุทธประวัติที่อินเดีย ชาวพุทธจักได้ศึกษาพุทธสังเวชนียสถานที่จำลองจากอินเดีย ณ ที่จังหวัดบุรีรัมย์
  3. หมู่บ้านกลันทา และ หมู่บ้านใกล้เคียงจักได้รับอานิสงส์ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ชีวิต และพัฒนาท้องถิ่นด้านอื่นๆ
  4. เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาบุรีรัมย์ได้ชมปราสาทหินเขาพนมรุ้ง,แข่งรถ,ฟุตบอล ยังได้มาบูชาสักการะพระพุทธองค์ดำจากอินเดีย ที่วัดกลันทารามซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัด

บัดนี้พระพุทธองค์ดำ สลักหินดำอินเดียจากนาลันทา บ้านเกิดพระอัครสาวก พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลนะ ในแดนพุทธภูมิได้มาสู่บุรีรัมย์แล้ว ขอเชิญไปกราบบูชาสักการะได้ตามศรัทธา และวัดกำลังดำเนินการก่อสร้างพระธาตุบุรีรัมย์พระพุทธองค์ดำมหาเจดีย์ บนพื้นที่ 25 ไร่ พร้อมเตรียมดำเนินการสร้างสังเวชนียสถานจำลอง 4 ตำบล และ เจดีย์ประจำวันเกิด จักเป็นบุญเขตที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของบุรีรัมย์ ในเวลาอันไกล้นี้

พระธาตุบุรีรัมย์พุทธองค์ดำมหาเจดีย์”

วัดกลันทา ตำบลกลันทา อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังดำเนินการก่อสร้าง ขอเชิญมาร่วมบุญใหญ่สร้างพระธาตุอีกแห่งให้ปรากฏ ณ จังหวัดบุรีรัมย์ แผ่นดินไทยแผ่นดินธรรมกันเถิด

อธิษฐานบุญที่สำเร็จสมปรารถนาโอนทรัพย์ร่วมบุญนี้ได้ที่

บัญชี วัดกลันทาราม ธนาคารกรุพเทพ สาขาบุรีรัมย์ เลขที่ 297-4-61269-5

ขออนุโมทนาทุกส่วนแห่งบุญทุกๆ ท่านด้วยความยินดียิ่ง

☎08-9286-2181,08-3371-7694 (ที่มา : https://pukmudmuangthai.com/detail/668)


                              ด้วยความศักยภาพของอาจารย์ในคณะฯ จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ดี เป็นทุกเส้นทางวัฒนธรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากนี้เรายังพาท่านที่ปรึกษาอธิการบดีไปยังพื้นที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรม เช่น ผ้าไทย อาหารพื้นถิ่น เป็นต้น ซึ่งถือว่าจังหวัดบุรีรัมย์เป็นพื้นที่วัฒนธรรมที่น่าศึกษาและน่าอยู่มาก หากมีการจัดทำเส้นทางวัฒนธรรมรอบจังหวัดบุรีรัมย์ ก็จะส่งเสริมวัฒนธรรมและรายได้ในการท่องเที่ยวให้คนในท้องถิ่น และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดอีกด้วย วันดี ๆและประสบการณ์ดี ๆ ในวันสำคัญ วันฉัตรมงคล

ความคิดเห็น