ผู้วิจัย
อาจารย์อุกฤษฎ์ นาจำปา
บทคัดย่อ
พลังงานทดแทนกับการพัฒนาภาคเกษตรกรรม สำหรับการพัฒนาภาคเกษตรกรรมในอดีตนั้นเรามีการใช้พลังงานทดแทนในภาคเกษตรกรรม เช่น แสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ เป็นต้น ได้มีการใช้พลังงานทดแทนเหล่านี้ที่มีอยู่ตามธรรมชาติร่วมกับการใช้แรงงานคนและสัตว์ เพื่อผลิตสินค้าภาคเกษตรกรรม เช่น การปลูกข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง แต่การผลิตดังกล่าวนั้นเป็นการผลิตเพื่อการยังชีพหรือเพียงพอต่อการดำรงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันการผลิตสินค้าภาคเกษตรกรรมต้องตอบสนองต่อการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ทำให้กระบวนการผลิตต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคนและสัตว์ เครื่องจักรดังกล่าวต้องมีการใช้น้ำมันเชื่อเพลิงในการขับเคลื่อนเครื่องจักร ส่งผลให้ลงทุนในการผลิตสินค้าเกษตรมีราคาเพิ่มสูงขึ้นและราคาน้ำมันดังกล่าวยิ่งมีระดับราคาที่ขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาสินค้าขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเพื่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงต้องมีการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในการผลิตสินค้าเกษตร พลังงานทดแทนดังกล่าว อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ การนำพลังงานทดแทนเหล่านี้มาใช้ในการพัฒนาภาคเกษตร พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานทดแทนประเภทหมุนเวียนที่ใช้แล้วเกิดขึ้นใหม่ได้ตามธรรมชาติ เป็นพลังงานที่สะอาดปราศจากมลพิษ และเป็นพลังงานที่มีศักยภาพสูง ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถจำแนกออก เป็น 2 รูปแบบ คือ การใช้พลังงานงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้งานต้องมีการใช้เทคโนโลยีควบคู่กันไปสำหรับเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มีความสําคัญต่อต้นทุนของประเทศในทุกด้านทั้งทางด้านเศรษฐกิจการเมือง และสังคม ล้วนแล้วแต่มีส่วนเชื่อมโยงกับพลังงานแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการดํารงชีวิตประจําวันการประกอบอาชีพ การผลิตวัตถุดิบ หรือแม้แต่ต้นทุนการผลิตภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของประชากรและมีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว ทําให้มีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่พลังงานมีจํากัดและขาดแคลน รวมถึงสถานการณ์ด้านพลังงานของประเทศไทย และ ทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีดังนั้น จึงต้องมีการจัดหาพลังงานให้มีปริมาณที่เพียงพอ มีราคาที่เหมาะสม และมีคุณภาพที่ดีสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชน และสามารถตอบสนองความต้องการการพลังงานใช้ในกิจกรรมการผลิตต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงได้จัดทําแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (พ.ศ. 2551 – 2565) โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดําเนินการจัดหา ดําเนินการ และพัฒนาพลังงานทดแทนด้านต่าง ๆ ขึ้น เพื่อให้ประเทศมีความยั่งยืน และมั่นคงในด้านพลังงานพลังงานแสงอาทิตย์จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถนํามาเป็นพลังงานทดแทนในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงทําให้ได้รับแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง และคงที่ตลอดทั้งปีซึ่งมีความเข้มของรังสีรวมของดวงอาทิตย์รายวันเฉลี่ยต่อปีของพื้นที่ทั่วประเทศพบว่ามีค่าเท่ากับ 18.0 เมกกะจูลต่อตารางเมตรต่อวัน (MJ/m2/day) หรือ 5.0 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อตารางเมตรต่อวัน kWh/m2/day)จัดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศ (คู่มือการพัฒนาและการลงทุนผลิตพลังงานทดแทน ชุดที่ 2 พลังงานแสงอาทิตย์, 2558) ดังนั้น ปัจจุบันพลังงานแสงอาทิตย์จึงถูกนํามาใช้อย่างแพร่หลาย โดยหลักการทํางานของเซลล์แสงอาทิตย์เป็นขบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นกระแสไฟฟ้าได้โดยตรง โดยเมื่อแสงซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและมีพลังงานกระทบกับสารกึ่งตัวนํา จะเกิดการถ่ายทอดพลังงานระหว่างกันพลังงานจากแสงจะทําให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า (อิเล็กตรอน) ขึ้นในสารกึ่งตัวนํา จึงสามารถต่อกระแสไฟฟ้าดังกล่าวไปใช้งานได้อุปกรณ์ที่นําพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้คือแผ่นโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) จึงจัดว่าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาดและไม่ก่อให้เกิดมลภาวะใด ๆ ต่อโลก พลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลล์ทางเลือกของพลังงานทดแทน, 2558) จังหวัดบุรีรัมย์มีหน่วยงานด้านพลังงาน ได้แก่ สำนักงานพลังงานจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ชั้น 2 เลขที่ 1159 เขากระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ภาพรวมทางเศรษฐกิจของจังหวัดบุรีรัมย์ในปี พ.ศ. 2554 พบว่า สัดส่วนของอุตสาหกรรมคิดเป็นร้อยละ 28 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดบุรีรัมย์ สัดส่วนของการเกษตรกรรม การล่าสัตว์และป่าไม้ คิดเป็นร้อยละ 26 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดบุรีรัมย์ สัดส่วนด้านอุตสาหกรรม คิดเป็นร้อยละ 16 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดบุรีรัมย์สัดส่วนด้านการศึกษา คิดเป็นร้อยละ 14 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดบุรีรัมย์สัดส่วนด้านขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ จักรยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดบุรีรัมย์
หน่วยงานการอ้างอิง
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
1. ความสำคัญและที่มาของปัญหาการดำเนินการโครงการ |
ในสภาวะที่ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องแสวงหาแหล่งพลังงานหมุนเวียนทดแทนพลังงาน จากเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งนับวันจะมีปริมาณลดน้อยลงและมีราคาสูงขึ้น ประเทศไทยเป็นประเทศในเขตเส้นศูนย์สูตร มีภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรม มีแดดจัดตลอดปี ทำให้มีการใช้พยังงานจากน้ำมัน เพื่อนำมาใช้ทางการเกษตรมีสัดส่วนการใช้พลังงานสูงขึ้น ประเทศไทยไทยกำลังดำเนินการใช้พลังงานตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก คาดว่าในปี 2580 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงพลังงานหมุนเวียนจะอยู่ที่ระดับ 20% หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพลังงาน Energy for All พลังงานเพื่อทุกคน ที่จะเกิดโรงไฟฟ้าชุมชนซึ่งใช้เชื้อเพลิงจากพลังงานหมุนเวียนเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านของพลังงานทางเลือกในประเทศไทย
ความคิดเห็น