“ดำเนินทราย”
โค้งโค้ง, ขาดขาด ใครวาดเส้น
งามเด่น, ปราสาททราย ใคร-เจ้าของ
ฉ่ำฉ่ำ, น้ำตาใครยังไหลนอง
เธอประคองทุกวิถีที่ประดัง
รุกเร้า, เนิบช้า นานาคลื่น
หยิบยื่น โยนเกลียวมาเกี้ยวฝั่ง
ถาโถมอารมณ์บ้าเป็นคราครั้ง
คล้ายจะหยั่งวังชาปัญญาทราย
เศษแก้วเกลื่อนกล่นปนชำแรก
ผิดแผก แปลกทางต่างความหมาย
อาคันตุกะแปลกหน้ามาย่ำกราย
เธอทักทายเอื้ออวยด้วยการุณย์
คลี่ห่มบ่มฟักตนุน้อย
น้ำค้างย้อยเย็นหยั่งจะยังอุ่น
ปูลม ร่อนเร่ที่เซซุน
เธอโอบเอื้อเจือจุนด้วยยินดี
เหนื่อยไหม? ทรายเอย..ฉันเอ่ยทัก
รับภาระหน่วงหนักมิหน่ายหนี
เม็ดทรายจิ้มลิ้มยิ้มในที
เธอตอบถ้อยสุนทรี ‘เถิด, จงฟัง’
“ฉันศรัทธาทุกหน้าที่ที่หยิบยื่น
ทุกรสเค็มของคลื่นที่เคลื่อนคลั่ง
ทุกทุกเท้าที่ลีลาละล้าละลัง ฯลฯ
มิตื่นเต้นมิชิงชังแต่อย่างใด
และมิเคยสนเท่ห์ทะเลบ้า
มิตระหนกลมจะพาจะพัดไล่
มิโศกซึมในซอกเศร้ารองเท้าใคร
มิครวญคร่ำร่ำไรในเริดร้าง
สามัญ–เพียงนี้แหละที่รัก
ทรายอย่างฉันรู้ตระหนักมิขัดขวาง
รู้เดียงสาในหน้าที่ทุกที่ทาง
และรู้วางอัตตาว่าเปล่าดาย”
แล้วเราย่อมสูญไปในวันหน้า
เร็ว-ช้า ใกล้-ไกล ไร้ความหมาย
ฉันเรียนรู้บทเรียน-เพียงเม็ดทราย
งามง่ายแต่สัตย์จริงนะมิ่งมิตร
ขีดโค้ง, คล้ายคล้ายหายไปแล้ว
น้ำตาใครก็มิแคล้วแห้งสนิท
ในรอยย่ำดำเนินทรายหลายชีวิต
เราก็ต่างกระจิริดมิผิดกัน
——————————————————————–
ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์ ผู้ประพันธ์
ความคิดเห็น