STEM ถูกใช้ครั้งแรกโดย สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (the National Science Foundation : NSF) ย่อมาจาก Science, Technology, Engineering and Mathematics เป็นแนวทางการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และสามารถบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ ไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในชีวิตจริงให้ได้ โดยทุกสาขาวิชามีความสำคัญเหมือนกัน ที่ต้องมีการจัดการการเรียนโดยบูรณาการทุกศาสตร์เข้าด้วยกัน

การออกแบบตามแนวคิด STEM EDUCATION เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 กระตุ้นทักษะการคิดแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมทักษะการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาทักษะการเรียนรู้และสร้างนวัตกรรม มีเนื้อหาสอดคล้องกับหลักสูตรใหม่ มีแบบประเมินทักษะการคิด

การจัดการศึกษา STEAM Education ที่มีการบูรณาการศิลปะ (A) ทาให้ผู้เรียนมีโอกาสถ่ายทอดหรือประยุกต์ใช้ แนวคิดสาคัญ (Concept) ด้วยความคิดสร้างสรรค์และมีจินตนาการยิ่งขึ้นผู้เรียนยัง
สามารถสื่อสารความคิดของตนเอง ในรูปแบบของดนตรีและการเคลื่อนไหว การสื่อสารด้วยภาษาท่าทางหรือการวาดภาพ หรือการสร้างโมเดลจาลอง ทาให้ชิ้น งานนั้นๆ มีองค์ประกอบด้านความสุนทรีย์ และความสวยงาม เพิ่มขึ้น เกิดเป็นชิ้นงานที่มีความสมบูรณ์ทั้งการใช้งานและ ความสวยงามนอกจาก STEM Education จะเป็นการบูรณาการ ศาสตร์ทั้ง 4 สาขาดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังเป็น
การบูรณาการ ด้านบริบท (Context Integration) ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวันอีกด้วย ซึ่งจะทาให้การสอนนั้นมีความหมายต่อผู้เรียน ทาให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการเรียนนั้นๆ และสามารถนาไป ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการทางาน การเพิ่มมูลค่า และสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศด้านเศรษฐกิจได้

ความคิดเห็น